1. เลือกผู้ว่าจ้างเชื่อใจได้ จ่ายเงินทันเวลา
ธุรกิจรับเหมาสร้างบ้านมีการลงทุนที่สูง ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนหมุนเวียน ค่าวัสดุก่อสร้าง เงินเดือนคนงาน หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ควรต้องระวังกับนายจ้างที่ไม่ดี อาจลองหาความเป็นมาของลูกค้าและมองประวัติความเป็นมาความน่าวางใจ ว่าเคยเบี้ยวเงินผู้รับเหมาเสมือนเรามั้ย อย่ารับงานจากผู้ที่จะมีผลให้พวกเราต้องเสียเวล่ำเวลาไปเรียกเก็บเงิน หรือจำเป็นต้องให้หมุนเงินจนกระทั่งเดือดร้อน
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/b274359e7bb8ce968e4354bfde26f603.jpg)
" เราเป็นผู้รับเหมาสร้างบ้าน ไม่ใช่ คนกลางหารายได้ " จุดโฟกัสที่การก่อสร้างเป็นหลักครับ
ยิ่งถ้าเจอนายจ้างดึงงวดท้ายที่สุด งานก็จะไม่สมบูรณ์ ไม่เหลือกำไร หรือบางทีอาจโชคร้ายจะต้องเจ๊งกันไป เพราะการเสี่ยงจากเจ้าภาพ ถือเป็นเรื่องจำเป็นถ้าเกิดคิดจะทำธุรกิจรับเหมาสร้างบ้าน และไม่ว่าลูกค้าจะเป็นผู้ใดกันแน่ ขอให้ทำความตกลงก่อสร้างอย่างรัดกุมที่สุด ไม่เสี่ยงรับงานซี้ซั้วนะครับ
2. เสนอราคาให้ได้กำไรที่เหมาะสม
การเสนอราคาให้กับนายจ้าง คือการเจรจาต่อรองที่ส่งผลต่อกำไรของธุรกิจรับเหมาสร้างบ้าน (https://www.warinaxis.com/) ผู้รับเหมาสร้างบ้านควรจะดำเนินงานที่ได้ กำไรสุทธิข้างหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด จะต้องไม่ต่ำลงมากยิ่งกว่า 10% (ขึ้นอยู่กับลักษณะงาน) อย่ารับงานที่ได้กำไรไม่พอ หรือเสียเปรียบสำหรับการต่อรองกับลูกค้า จนถึงทำให้ธุรกิจไม่เติบโต รวมทั้งเสียเวล่ำเวลาไปโดยไม่คุ้ม
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/unnamed4898cd732bcc262d.jpg)
เมื่อเสนอราคาให้กับนายจ้าง ก็จำเป็นต้องคำนวณ BOQ ให้ถูกขวานผ่าซาก ผู้ว่าจ้างส่วนใหญ่บางทีอาจไม่รู้เรื่องโครงสร้างต้นทุนกับการเสี่ยงเยอะแยะที่พวกเราจำเป็นต้องแบกรับ เชื่อว่าผู้รับเหมามีผลกำไรมาก หัวหมอชอบแอบซ่อนอะไรไว้ แต่เรารู้ๆกันดีอยู่แล้วครับผม ว่าราคาที่เสนอไปคือการคุ้มครองป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เสียหาย ค่าเหนื่อยโอที ค่าน้ำประปา ค่าไฟ ค่าน้ำประปามัน อื่นๆอีกมากมาย
ทดลองอธิบายให้เจ้าภาพรู้เรื่อง แจกแจงให้เห็นภาพ ว่าควรที่จะเลือกพวกเราเพราะเหตุว่ามีความพร้อมเพรียง ดำเนินงานคุณภาพดี แล้วก็จบตรงเวลา ไม่ใช่ด้วยเหตุว่าราคาไม่แพงที่สุดแต่ไปเสี่ยงกับปัญหาในตอนหลัง
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/Property_Construction_Engineer_Plan-Meeting.jpg)
3. สัมมนาตอน Pre-Construction
Pre-Construction ช่วงตระเตรียมก่อนเริ่มงานก่อสร้าง จึงควรสัมมนาร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ตั้งแต่ผู้จัดการโครงการ นักออกแบบ วิศวกรสนาม โฟร์แมน ฝ่ายประเมินราคา ข้างจัดซื้อ รวมทั้งข้างบัญชี เพื่อให้เห็นทางเดียวกัน การวางแผนไม่ใช่หน้าที่ของ PM เพียงผู้เดียว ข้อมูลที่ได้รับมาจากทุกฝ่ายจะช่วยให้การวางเป้าหมายเกิดคุณภาพสูงสุด พยายามคุยกันอย่างเปิดเผย เข้าใจกันอย่างถ่องแท้ งานจะจบได้ด้วยดี
(https://img2.pic.in.th/pic/1617637513-Design-drawing-2D-3D-Engineer-Sing-and-Permission-IEAT.jpeg)
4. ตั้งงบ ติดตาม และควบคุมทุน
การวางเป้าหมายงบประมาณและจัดแจงต้นทุนสำหรับแผนการก่อสร้าง สามารถช่วยทำให้ผู้รับเหมาก่อสร้างทุ่นเวลา ลดความเสี่ยงและก็เพิ่มกำไรได้ แม้กระนั้นหลายผู้รับเหมาสร้างบ้านมักไม่สนใจทำ เพราะว่าหน้างานมีเรื่องมีราววุ่นวายจนถึงไม่มีเวลาเก็บข้อมูลต้นทุนที่จ่ายออกไปแล้ว
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/0048ddfa9bcd49e1d71.jpg)
ทุนค่าใช้สอยในการก่อสร้างมักไหลออกได้หลายทาง อีกทั้งการซื้อสิ่งของ การจ่ายค่าแรง การจ้างผู้รับเหมาช่วง การใช้เงินสดย่อย ฯลฯ ถ้าหากว่าไม่มีการควบคุม เงินลงทุนก็จะหลุดออกนอกวัตถุประสงค์ได้ง่าย ธุรกิจรับเหมาสร้างบ้านต้องมีระบบเอกสารกับกระบวนการที่แน่ชัด สำหรับรวบรวมเงินลงทุนและรายจ่ายทั้งหมดให้ครบบริบรูณ์
5. มีเงินทุนหมุนเวียน อย่างต่ำ 30%
ธุรกิจรับเหมาสร้างบ้านจะต้องมีเงินทุนหมุนเวียน ไม่น้อยกว่า 30% ของค่าโครงงานก่อสร้างที่ได้รับ เพื่อให้ก้าวเดินต่อไปได้โดยไม่ต้องพึ่งพิงเงิน Advance หรือเงินงวดจากนายจ้าง เนื่องเพราะเงินส่วนนี้อาจติดปัญหาในการเบิกหรือจ่าย ทำให้งานชักช้า ทุนเพิ่มขึ้นสวนทางกับผลกำไรที่ลดลง
(https://img2.pic.in.th/pic/fd9fe49c77b0cb3f9ecbda4e10a11bb7.jpg)
การมีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอ จะช่วยทำให้ผู้รับเหมาก่อสร้างปฏิบัติงานได้ตามแผน รวมทั้งเป็นประโยชน์อีกอย่างเป็น สามารถซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการก่อสร้างเป็นเงินสดเพื่อรับส่วนลดเงินสดจากคนขาย (Cash Discount) 1.5-3% หรือคิดเป็นผลกำไรที่เพิ่มขึ้น 1-2% เลยทีเดียว
เงินทุนหมุนเวียน ปัจจัยหลักที่ทำให้ธุรกิจรับเหมาสร้างบ้านมีความมั่นคงยั่งยืน หากเงินทุนหมุนเวียนไม่ดีก็ดำเนินการได้ลำบาก หรือหากต้นทุนแพงแต่กำไรน้อยก็ไม่มีทางเติบโต กลับไปข้อที่ 1. ถ้าเลือกนายจ้างดี จ่ายเงินทันเวลา ก็จะจบปัญหาเรื่องการหมุนเงิน แล้วไปสู่โหมดการผลิตผลกำไรได้ครับผม
6. มีความเกี่ยวข้องที่ดีกับซัพพลายเออร์
ซัพพลายเออร์ เป็นหุ้นส่วนสำคัญที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจรับเหมาสร้างบ้านให้เติบโตขึ้นได้ เราสามารถอดออมทุนได้ด้วยการช่วยเหลือจากซัพพลายเออร์ ที่ช่ำชองการหาวัสดุที่เหมาะสม เพราะเหตุว่าวัสดุแต่ละอย่างก็มีวิธีการการซื้อนานับประการ
เมื่อเจอกับซัพพลายเออร์ที่ดี สามารถให้คำแนะนำและจัดส่งอุปกรณ์ให้ได้ตรงตามเวลา ไม่ทำให้งานขัดข้อง ก็ควรจะรักษาความข้องเกี่ยวที่ดีเอาไว้ ให้เกรียติ ไม่เอาเปรียบแล้วก็ (อุตสาหะ) จ่ายเงินให้ตามเวลา ถ้าเกิดทำงานด้วยกันอย่างเข้าขา ทางซัพพลายเออร์ก็ต้องการจะช่วยพวกเราในฐานะลูกค้าที่ดี มีส่วนลด หรือต่อรองราคาได้ง่าย
(https://img2.pic.in.th/pic/452280457_974002104523219_8447890506225326225_n.jpg)
7. ดูแลคนงาน และผู้รับเหมาก่อสร้างช่วง
แรงงานเป็นเรื่องที่ทำให้ปวดศีรษะไม่น้อย คนทำมาค้าขายรับเหมาสร้างบ้านไม่ควรปล่อยปละละเลยเรื่องรากฐานอย่าง การชำระเงินทันเวลา และการดำรงชีวิตที่เหมาะสม ถ้าเกิดพวกเค้าได้รับประทานอิ่มนอนอุ่น ก็จะต้องการปฏิบัติงานกับเราต่อไปเรื่อยๆเองขอรับ นึกไว้เสมอ " ไม่มีพวกเขาก็ไม่มีเรา " อย่าลืมว่าประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุคขาดแคลนแรงงานที่ต่ำลงเป็นเท่าตัวในทุกปีด้วยครับผม
การเสียแรงงานฝีมือดีไปทำงานกับที่อื่น ก็คือปัญหานึง ที่เพราะเหตุว่าเขาบางทีอาจมิได้รับเงินเดือนที่เหมาะสม ไม่มีช่องทางให้เค้าเติบโตในอาชีพ หรือบางคนก็อยากเป็นเจ้าของธุรกิจรับเหมาด้วยตัวเอง ผู้รับเหมาก่อสร้างควรใส่ใจให้ดี
8. ลงทุนกับสินทรัพย์
หมายถึงสินทรัพย์ที่เราซื้อมาเพื่อใช้ประโยชน์สำหรับในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องไม้เครื่องมือ เครื่องจักร ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง แคมป์คนงาน หรืออะไรก็ตามที่ ลงทุนซื้อ แล้วได้ประโยชน์มากกว่า การเช่า หรือ ไม่มีใช้
การมีเครื่องไม้เครื่องมือเป็นของตัวเอง จะสามารถช่วยให้ปฏิบัติงานได้เร็ว เนื่องจากพร้อมให้ถือจับมาใช้ได้ตลอด พองานไวทุนก็ลดน้อยลง หรืออาจจะทำให้ประสิทธิภาพงานสูงขึ้น พร้อมที่จะแข่งขันกับผู้รับเหมาก่อสร้างรายอื่น แต่ว่าอย่าลืมคิดถึงค่าใช้สอยที่ตามมาด้วยครับ อาทิเช่น ค่าซ่อมบำรุง ค่าเสื่อมราคา หรือการเสี่ยงจากการหาย ทดลองคำนวณมองว่า ซื้อหรือเช่า แบบไหนจะคุ้มกว่า
9. คุมเวลางานให้ได้ตามแผน
ผู้ว่าจ้างมักจะชอบงานก่อสร้างที่มีคุณภาพและเสร็จทันตามกำหนด หรือเร็วกว่าแผนได้ก็ยิ่งดี พองานเสร็จตามแผนเราก็สามารถโยกคนงาน แล้วก็เครื่องจักรไปทำไซต์งานอื่นต่อได้
การวางแผนการก่อสร้างจะต้องเริ่มตั้งแต่ตอน Pre-Construction และจะต้องติดตามการทำงานอย่างใกล้ชิด โดยที่วิศวกรหน้างานจำเป็นต้องไปส่องดูก่อนยละเอียด แล้วก็ตรวจคุณภาพงานให้จบได้ในคราวเดียวแบบที่ไม่ต้องตรวจงานย้อนหลังจะเยี่ยมที่สุด
10. บริการผู้ว่าจ้างให้ตลอดรอดฝั่ง
ธุรกิจรับเหมาสร้างบ้านที่ไปถึงเป้าหมาย จำเป็นต้องสามารถบริการลูกค้าได้อย่างมือโปรตลอดระยะเวลาก่อสร้าง ด้วยการสื่อสารอย่างเปิดเผย ปฏิบัติตามคำสัญญา รวมทั้งส่งงานได้ทันตามกำหนด เพื่อสร้างความไว้วางใจระหว่างกัน เท่านี้ก็ได้โอกาสที่กำลังจะได้งานสม่ำเสมอ หรือได้รับงานจากการชี้แนะของลูกค้าเดิมอีกด้วย
สรุป
สรุปแล้ว ธุรกิจรับเหมาสร้างบ้าน (Construction Business) นั้นเป็นธุรกิจที่ดำเนินกิจการรับเหมาสร้างบ้าน ด้วยการรับผิดชอบหน้าที่หาวัสดุอุปกรณ์ แรงงาน และเครื่องจักรที่จำเป็นต้องต่อการก่อสร้าง เพื่อการก่อสร้างเป็นไปตามแผนกับงบประมาณที่กำหนด
กลับมาดัน ขอบคุณครับ
ดันๆ
ดันกระทู้
ดันกระทู้
ดันๆ
กลับมาดัน ขอบคุณครับ
กลับมาดัน ขอบคุณครับ
กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ
ดันๆ
ดันๆ
กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ
กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ
ดันๆ
ดันกระทู้
ดันกระทู้
ดันๆ
กลับมาดัน ขอบคุณครับ
ดันกระทู้
ดันกระทู้
ดันกระทู้
ดันกระทู้
ดันๆ
กลับมาดัน ขอบคุณครับ
ดันๆ
กลับมาดัน ขอบคุณครับ
กลับมาดัน ขอบคุณครับ
ดันกระทู้
ดันกระทู้
กลับมาดัน ขอบคุณครับ
ดันกระทู้
ดันๆ
กลับมาดัน ขอบคุณครับ
กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ
กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ
กลับมาดัน ขอบคุณครับ
กลับมาดัน ขอบคุณครับ
ดันกระทู้
ดันกระทู้
กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ
ดันๆ
กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ
ดันๆ
กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ
กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ
กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ
ดันๆ
ดันๆ
กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ
ดันกระทู้
กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ
ดันๆ
ดันกระทู้
กลับมาดัน ขอบคุณครับ
ดันกระทู้
ดันกระทู้
กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ
กลับมาดัน ขอบคุณครับ
ดันกระทู้
ดันกระทู้
ดันๆ
กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ
ดันกระทู้
กลับมาดัน ขอบคุณครับ
ดันกระทู้
ดันๆ
ดันๆ
ดันๆ
ดันกระทู้
กลับมาดัน ขอบคุณครับ
กลับมาดัน ขอบคุณครับ
กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ