ตับมีปัญหา (https://www.rophekathailand.com/post/l/hepheka/how-liver-notwork) จำเป็นต้องรีบหาทางแก้ รีบดูแล บำรุง รักษาให้กลับมาแข็งแรงอีกรอบ เพราะว่าถ้าหากปล่อยไว้ให้ไขมันพอกตับ หรือปล่อยให้ตับอักเสบจนกระทั่งเรื้อรัง ก็เป็นบ่อเกิดของโรคตับแข็ง และมะเร็งตับได้เช่นเดียวกัน โดย Rohit Satoskar กรรมการผู้จัดการจาก MedStar Georgetown สถาบันปลูกถ่ายมีชื่อ กล่าวย้ำเตือนถึงความสำคัญของตับเราเอาไว้ว่า "ตับ เป็นอวัยวะที่ง่ายต่อการเสียหาย หากคุณไม่ดูแลมันให้ดี.. และก็เมื่อมันเสียหายไปแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ไปลับ ไม่อาจหวนคืนมาดังเดิมได้" แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าตับกำลังมีปัญหา แล้ว สาเหตุ ตับมีปัญหา มาจากอะไร..? และก็ควรจะดูแลบำรุงเช่นไร..? เนื้อหานี้มีคำตอบให้ท่าน (https://xn--12cb2dohvt2h7af4r.com/wp-content/uploads/2020/07/%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99-768x352.jpg) อวัยวะ "ตับ" ก็เป็นเสมือนศูนย์กลางขนาดใหญ่ ทั้งเป็นโรงงานเก็บผลิตภัณฑ์ (เก็บกักสารอาหารต่างๆ) เป็นทั้งโรงงานการผลิต (สร้างโปรตีน สร้างลิ่มเลือด ฯลฯ) แล้วก็ยังเป็นโรงงานดัดแปลง (จากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล ที่ร่างกายจะนำไปใช้เป็นพลังงาน) หากร่างกายขาดหัวใจแล้วต้องตาย..ร่างกายที่ขาดตับก็เสมือนตายทั้งเป็น คำบอกเล่าที่ว่าตับเป็นเหมือนหัวใจดวงที่สองของร่างกาย จึงไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใดหน้าที่ของตับ มีอะไรบ้าง ?ในส่วนของการผลิต
- สร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อสภาพร่างกาย ซ่อมบำรุงส่วนที่สึกหรอ
- สร้างโปรตีนซึ่งทำให้เลือดเราแข็งตัว อย่างไฟบริโนเจน (Fibrinogen) โดยจะถูกสังเคราะห์ขึ้นที่ตับ
- สร้างโปรตีนที่ปฏิบัติหน้าที่ เป็นส่วนประกอบของเลือด เช่น อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำสารอาหารและเกลือแร่เอาไว้ภายในหลอดเลือด
- สร้างน้ำดี ย่อยเผาผลาญไขมัน รวมทั้งมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญร่างกาย
- สร้างสารจำพวกไขมัน แล้วก็ถึงสารเริ่มต้นของฮอร์โมนบางประเภท
ในส่วนของการกักเก็บ
- ตับจะเป็นแหล่งกักเก็บไกลโคเจน เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานนำไปให้ร่างกายใช้
- เก็บวิตามินและก็เกลือแร่บางประเภทที่จำเป็น
ในส่วนของการแปรรูปและอื่นๆ
- ตับคอยแปรรูป อาหารรวมทั้งยาให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้
- ชวยล้างพิษ กรองพิษในเลือด
- ขับของเสียออกจากร่างกายในรูปแบบปัสสาวะ หรือขับถ่ายมาพร้อมกับน้ำดี (https://xn--12cb2dohvt2h7af4r.com/wp-content/uploads/2020/06/%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%8C.jpg) สาเหตุ ตับมีปัญหา
จริงแล้วการที่ตับพัง หรือตับต้องเผชิญกับปัญหาเสื่อมโทรมสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัยทั้งยังจากเชื้อไวรัส หรือโรคที่มีต้นเหตุมากจากกรรมพันธุ์ตั้งแต่เกิด แต่หลักๆที่ทำให้คนส่วนใหญ่มีการอักเสบที่ตับ ค่าตับสูง มักมีต้นเหตุจากการกระทำทำร้ายตับตัวอย่างเช่น
1.ดื่มแอลกอฮอล์
2.ชอบทานอาหารไขมันสูงอย่างของมัน ของทอด
3.ทำงานหนัก มีความตึงเครียด
4.ชอบนอนดึก ตื่นสาย
5.กินยาหรืออาหารเสริมมากจนเกินความจำเป็น
6.ขาดการบริหารร่างกาย
7.นั่งหรือนอนอยู่กับที่เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน (เกิน 2 ชั่วโมง)
8.ไม่กินอาหารเช้า
9.ชอบทานอาหารดิบๆสุกๆ
10.ปฏิบัติงานเกี่ยวกับ สารพิษ สารเคมี
11.ร่วมเพศโดยไม่ป้องกันกับหลายบุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นหนึ่งในพฤติกรรมประจำวันซึ่งเราบางทีก็อาจจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "ตับ" ของเรานอกจากจะทำงานมาก 24 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่วายถูกทำร้ายในทุกวี่ทุกวันอีกด้วย โดยเราอาจจะลองพิจารณาอาการที่เป็น สาเหตุ ตับมีปัญหา ผ่านสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมา ยกตัวอย่างเช่น มีลักษณะอาการง่าย หมดแรง , มีปัญหาในการนอน , อาการท้องอืดเสมอๆ, ปวดจุกแน่นที่ชายโครงขวา , ความต้องการของกินน้อยลง , แขนขา ท้องบวมโต เป็นต้นถ้าเกิดคุณเริ่มมีหนึ่งในอาการดังกล่าวแล้วยังไม่ให้ความสนใจกลับมาดูแลตับอีก.. รู้ตัวอีกครั้งความน่าสะพรึงกลัวของโรคตับก็จะแสดงออกมาอย่างชัดเจนก็ในขั้นร้ายแรงอย่างตอนเป็นตับแข็ง หรือมะเร็งตับไปเสียแล้ว (https://xn--12cb2dohvt2h7af4r.com/wp-content/uploads/2019/09/shutterstock_81166582-copy-768x512.jpg) การดูแลรักษาตับเบื้องต้น
"ตับ" เป็นอวัยวะที่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ โดยทางทฤษฎีถ้าหากเราตัดตับทิ้งไป 3 ส่วน เจ้าตับเองก็สามารถฟื้นฟูกลับไปเป็นรูปร่างแบบเดิมได้ภายในไม่กี่อาทิตย์ ดังนั้นเมื่อเราเผลอมีพฤติกรรมทำร้ายตับโดยไม่รู้ตัว ตับเองก็ฟื้นฟูตัวเองได้ แม้กระนั้นไม่ได้หมายความว่าคุณจะใช้งานมันอย่างหนักหน่วง หรือเฉยเมยให้ตับถูกทำร้ายโดยไม่ใส่ใจได้ เพราะหากตับอักเสบบ่อยๆจนเกิดพังผืดเกาะกินกลายเป็นตับแข็ง ตับก็หมดสิทธิ์ฟื้นตัว ยิ่งมะเร็งยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง.. สิ่งสำคัญที่สุดคือ การใส่ใจบำรุงตับเพื่อคุ้มครองไว้ก่อน ดีกว่าที่จะตามไปรักษาในภายหลังเมื่อเรามีพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ ก็ควรเริ่มเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ให้ตับได้แข็งแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
(1) ปรับพฤติกรรมการกินอาหาร
ลดของกินไขมันสูง ของทอด ของมัน
ในส่วนเนื้อสัตว์เน้นไปที่เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ แทนพวกเนื้อสีแดง (อย่างเนื้อหมู หรือเนื้อวัว) เพื่อลดจำนวนไขมันอิ่มตัวที่จะได้รับ
หลีกเลี่ยงอาหารว่าง เค็มจัด ใช้พวกเครื่องเทศให้กลิ่นและก็รสแทนน้ำตาลและผงชูรส
กินอาหารปรุงสุก รักษาสุขลักษณะ ลดการเสี่ยงสำหรับการติดเชื้อไวรัส(2) หมั่นขยับร่างกายเสริมความแข็งแกร่งให้ตับ
บริหารร่างกายให้ได้ 150 นาที/อาทิตย์ (หรืออย่างต่ำ 60 นาที/สัปดาห์)
ระหว่างที่กำลังทำงานหาเวลาลุกเดิน 5-10 นาที หรือเปลี่ยนแปลงอริยาบททุก 1-2 ชั่วโมง
ฝึกฝนการหายใจเข้า-ออกลึกๆ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปขจัดของเสียในเลือด รวมทั้งก๊าซ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ช่วยในระบบหมุนเวียนเลือดได้(3) เลี่ยงการรับยาเสพติด หรือสารเคมี
ในกรณีที่ไม่อาจจะเลิกได้ พยามยามลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบบุหรี่ให้ลดน้อยลงที่สุด
เลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือรอบๆที่มีการปนเปื้อนของสารเคมี บริเวณที่มีฝุ่นควัน มลภาวะหนาแน่นแม้ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ ตับย่อมกลับมาแข็งแรงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเหมือนเดิม เพิ่มเติมเป็นถ้าคิดว่าพฤติกรรมเหล่านี้เราบางทีอาจทำได้ยาก ลองมาดูเทคนิคน่ารู้ ที่จะสามารถช่วยคลีนตับเราได้กัน.. (https://xn--12cb2dohvt2h7af4r.com/wp-content/uploads/2019/08/1.jpg) เคล็ดลับ(ไม่)ลับน่ารู้ คู่การดูแล ตับมีปัญหา
"เรื่องกิน..เรื่องสำคัญ" อาหารที่เรารับเข้าไปในทุกวันก็นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ให้แก่ตับได้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งทานเข้าไปแล้วตับจะดียิ่งขึ้นหรือแย่ลง ก็ขึ้นอยู่กับว่าเรากินอะไรลงไป.. แล้วก็นี่คือ 3 ตัวช่วยน่าสนใจซึ่งสามารถคลีนตับที่มีปัญหาของเราได้ตัวช่วยแรก #ซูเปอร์เครื่องเทศ - กระเทียม
ถึงจะพบเห็นได้ตามท้องตลาดทั่วไป เปิดตู้เย็นเราก็เจอ แม้กระนั้นเครื่องเทศที่ดูบ้านๆนี้ซ่อนเร้นไปด้วยคุณประโยชน์ที่ไม่ได้บ้านตาม โดยกระเทียมจะช่วยกระตุ้นกระบวนการดีท็อกซ์ แล้วก็ป้องกันตับจากสารพิษ รวมถึง Advanced Biomedical Research (2016) ยังได้เผยแพร่การค้นคว้าวิจัยว่ากระเทียมผงช่วยสำหรับเพื่อการลดไขมันในผู้ที่มีสภาวะไขมันพอกตับได้อีกด้วยตัวช่วยสอง #ซูเปอร์ฟรุ๊ต - พรูนัส มูเม่
แม้ชื่อจะไม่เคยรู้คนอีกหลายๆคน แต่มันเป็นสารสกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากฝรั่งเศสซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกินในตับ แล้วก็ลดอาการอักเสบของตับได้ โดยจะมีสารสำคัญในการออกฤทธิ์เป็น กรดโอลีโนลิกและกรดเออโซลิก ซึ่งมีคุณสมบัติเพิ่มกระบวนการเมตา.ิซึมในตับ รวมถึงสามารถลดไขมันเลวเพิ่มไขมันดี ซึ่งส่งผลให้ตับมีสุขภาพดี ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตัวช่วยสาม #ซูเปอร์เครื่องดื่ม - ชาเขียว
ชาเขียวนับว่าเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยคลีนตับชั้นดีเลิศ โดยในปี 2015 The World Journal of Gastroenterology มีการศึกษาค้นคว้าว่า ชาเขียว ช่วยลดระดับไขมันในเลือดตลอดจนถึงส่วนต่างๆในร่างกาย ทั้งยังพบว่า ผู้ที่ดื่มชาเขียวปริมาณ 5 - 10 แก้วต่อวัน สามารถช่วยลดไขมันพอกตับได้อีกด้วย รวมทั้งยิ่งชงอ่อนๆจิบเบาๆทั้งวันยังช่วยดีท็อกซ์ชะล้างสารพิษได้อีกด้วยสรุป
ตับมีปัญหา ปล่อยปัญหาไว้ก็จะยิ่งสะสมกระทั่งโรคร้ายอาจถามหาโดยไม่รู้ตัว เมื่อต้องใช้ชีวิตแล้วก็มีพฤติกรรมทำร้ายตับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวช่วยดีๆหรือการปรับพฤติกรรมก็เป็นสิ่งสำคัญซึ่งสามารถป้องกันแล้วก็ลดความเสี่ยงสำหรับการเป็น ตับแข็ง หรือมะเร็งตับ โรคยอดฮิตที่คร่าชีวิตคนไทยกันติดท็อป 5 ของไทยเรากันเลยทีเดียว"สู้เพื่อตับวันนี้..ชีวิตดีวันหน้า" สุขภาพที่แข็งแรงเราสร้างขึ้นเองได้.. โดยถ้าหากสงสัย หรือมีปัญหาสุขภาพตับอยากปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ขอรับคำปรึกษาหารือปัญหาสุขภาพกันได้ฟรีๆที่ Fanpage และ Line : @ Hepheka ซึ่งจะมีทีมผู้ที่มีความชำนาญและก็เภสัชกรพร้อมให้คำปรึกษาคุณในตลอดเวลา