ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN

กุหลาบสวย ย่อมมีหนาม ดอกไม้งามมิได้มีแค่กลิ่นหอม แต่ยังเปี่ยมพลังแฝงเร้นคอยสลายความเครียดซึ่งเกราะกำบังชีวิตผู้คนให้จางหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ 'Calming Power of Flower' สมญานามนี้มิได้ตั้งแค่เพียงเจ้ากุหลาบ แต่มอบแก่มวลหมู่ดอกไม้ทั้งปวง ผ่านวิถีบำบัดอย่าง Bach's Flower Remedies ซึ่งมีชื่อเสียงและนิยมใช้แพร่หลายทั่วโลกจวบจนปัจจุบัน

     เมื่อโลกเปลี่ยนเร็วกว่าที่เคย ผู้คนเริ่มปรับตัวไม่ทันการ ความเครียดก็ย่อมตามมาเป็นเงาตามตัวอย่างเลี่ยงไม่ได้ และยิ่งนานวันเข้าก็ยิ่งส่งผลต่อสุขภาพกายและจิตจนทำให้ร่างกายเริ่มแห้งเหี่ยวและโรยร่ำลาโลกก่อนวัย หลายครั้งผู้คนหันหาการรับประทานยาเคมีเป็นทางเลือก ทว่าก็มีข้อจำกัดที่ผลข้างเคียง บางทีวิถีดอกไม้บำบัดอย่าง Bach's Flower Remedies อาจเป็นคำตอบที่ดีสำหรับเสริมภูมิคุ้มกันและสลายความเครียดที่เปรียบเสมือนเมฆหมอกมัวใจให้ทุเลาจาง

Homeopathy ฟื้นคืนชีพพลังกายและจิตด้วยธรรมชาติบำบัด
Homeopathy คือศาสตร์การแพทย์แนวธรรมชาติบำบัด โดยใช้สารธรรมชาติมากระตุ้นให้ร่างกายฟื้นฟูและบรรเทาอาการเจ็บป่วยด้วยตนเอง ทั้งยังได้รับการพัฒนาศาสตร์การรักษาให้เข้ากับองค์ความรู้ทางการแพทย์แผนปัจจุบันจนเกิดแนวทางการรักษาแบบใหม่ที่เรียกว่า ศาสตร์การแพทย์ธรรมชาติบำบัดผสมผสานแบบ PRM (Physiological Regulating Medicine) ถือเป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยเสริมการรักษาโรคต่าง ๆ ซึ่งให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพดีและไร้ผลข้างเคียง

Bach's Flower Remedies คืออะไร
Bach's Flower Remedies (BFRs) คือธรรมชาติบำบัดชนิดหนึ่งซึ่งได้รับการคิดค้นโดย ดร. เอ็ดวาร์ด บาค (Ed Bach) แพทย์ พยาธิแพทย์ (Pathologist) นักแบคทีเรียวิทยา (Bacteriologist) และนักธรรมชาติบำบัดจากประเทศอังกฤษ โดยเน้นรักษาสมดุลทางอารมณ์ผ่านการนำดอกไม้และส่วนประกอบพืชกว่า 38 ชนิดที่มาคัดเลือกก่อนปรุงจนได้ Flower Remedies ที่เหมาะสมสำหรับใช้รักษาสภาวะอารมณ์ของบุคคล ซึ่งบาคได้แยกกลุ่มอารมณ์ด้านลบไว้ 7 กลุ่มใหญ่ ได้แก่

• ความกลัว (Fear)
• ความไม่มั่นใจ (Uncertain)
• ความไม่อยู่กับปัจจุบัน (Not Sufficient in present circumstances)
• ความรู้สึกโดดเดี่ยว (Loneliness)
• ความรู้สึกอ่อนไหวเป็นพิเศษ (Over-sensitivity to influences and Idea)
• ความรู้สึกสิ้นหวัง (Despair)
• การห่วงพะวงเรื่องของคนอื่นหรือสิ่งอื่นมากเกินไป (Over-care for the welfare of other)

ใช้เวลารักษานานเท่าไหร่
โดยทั่วไปการทำหัตถการฉีด Belotero เพียง 30 นาทีหรืออาจนานกว่านั้นซึ่งขึ้นอยู่กับบริเวณที่รักษาหรือลักษณะอาการแสดงของผู้เข้ารับการทำหัตถการจากแพทย์ชำนาญการ

ระยะเวลาแสดงผลลัพธ์หลังฉีด
ผลลัพธ์หลังการฉีด Belotero จะเริ่มแสดงผลตั้งแต่ 6 – 18 เดือนซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของ Belotelo ที่ใช้ฉีดร่วมกับปัจจัยอื่น เช่น บริเวณที่รักษา ประเภทและสภาพของผิว ระบบเมตาบอริซึมในร่างกาย อายุ ไลฟ์สไตล์ เป็นต้น ทั้งนี้หลังการรักษาเบื้องต้น

สามารถคงสภาพผลลัพธ์ได้ชั่วคราวหรือถาวร
ผลลัพธ์ที่ได้จะคงสภาพเพียงชั่วคราว เนื่องจากกรดไฮยาลูโรนิกจากผลิตภัณฑ์ Belotero จะเริ่มสลายตัวจากชั้นผิวหนังทีละเล็กละน้อยในแต่ละเดือน เหตุนี้เองที่ทำให้ผู้เข้ารับการรักษาต้องเข้าพบแพทย์เพื่อประเมินผลลัพธ์ ก่อนที่แพทย์จะแนะนำหนทางการรักษาที่เหมาะสมแก่บุคคลควบคู่กัน

จำเป็นต้องพักฟื้นหลังฉีดไหม
เนื่องจากการรักษาด้วย Belotero ไม่ก่อเกิดผลข้างเคียงใด ๆ ดังนั้นผู้เข้ารับการรักษาส่วนใหญ่สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปรกติเพียงแค่ไม่ละเลยปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ก็เพียงพอแล้ว

การทำหัตถการด้วย Belotero เจ็บไหม
อาจเกิดอาการเจ็บหลังน้อยขณะฉีดบนผิวหน้า อย่างไรก็ตาม แพทย์จะให้ยาชาก่อนทำหัตถการฉีด Belotero ทุกครั้งเพื่อให้ผู้เข้ารับการรักษารู้สึกสบายและผ่อนคลายตลอดการรักษา



ข้อสังเกตง่าย ๆ ตรวจสอบว่าเป็น Belotelo แท้หรือไม่?
สำหรับใครที่ไม่แน่ใจว่าชุด belotero revive ที่ใช้เป็นสารเติมเต็มแท้หรือไม่ Medisci มีจุดสังเกตง่าย ๆ ที่ผู้เข้ารับการรักษาสามารถทำได้ไม่ว่าจะซื้อผลิตภัณฑ์ใช้เองหรือเข้ารับการทำหัตถการจากแพทย์ชำนาญการ ก็ล้วนแล้วสามารถเช็คได้ด้วยข้อสังเกตดังต่อไปนี้

• ดูฉลากภาษาไทยข้างกล่อง: ก่อนแกะกล่องทำหัตถการควรหาฉลากภาษาไทยเพื่ออ่านรายละเอียดผลิตภัณฑ์เสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นหมายเลข Lot หรือ
• เลขที่ผลิต วันผลิต วันหมดอายุและเลขอ้างอิง
• มีเลขอนุญาตเครื่องมือแพทย์: ฉลากเอกสารกำกับ ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับของ อย. ไทย
• เลข Lot: ที่กล่องและที่หลอดต้องตรงกันทุกจุด
• สแกน QR Code: ข้างกล่องโดยแสดงผลลัพธ์บนหน้าจอมือถือ #Merzcheck
• ตรวจสอบผลิตภัณฑ์: ผ่านเว็บไซต์ต้นสังกัด https://www.merzclubthailand.com/