• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

การออกแบบบ้านให้ประหยัดพลังงาน

Started by fairya, September 02, 2024, 10:03:40 PM

Previous topic - Next topic

fairya

1. ปลูกต้นไม้ทรงสูงเพื่อบังแสงอาทิตย์ โดยที่จะจะต้องให้มีกระแสลมเย็นพัด ผ่านใต้พุ่มไม้ใบในความเร็วที่พอดี เพื่อลดอุณภูเขามิข้างนอกใกล้บริเวณบ้านและ คุ้มครองปกป้องลมพัดผ่านเข้าตัวบ้านมากเกินไป โดยควรปลูกต้นไม้ในทิศตะวันออกรวมทั้ง ทิศตะวันตก



2. ควรเลือกประเภทต้นไม้ที่เหมาะสมสำหรับใช้เป็นร่มเงาที่มีอยู่ตามเขตแดนเช่น ต้นปีบ ต้นอินทนิล ต้นสัตบัน ต้นสุพรรณิกา ฯลฯ เพื่อลดการใช้ปุ๋ย ยาฆ่า แมลงการดูแลและรักษา ด้วยเหตุว่าต้นไม้เหล่านี้มีความคุ้นเคยกับภาวะทำเลที่ตั้ง และภูมิอากาศในประเทศไทยอยู่แล้ว

3. นำหลักภูมิสถาปัตย์มาใช้ เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมรอบๆบริเวณบ้านให้ เย็นสบาย โดยการปลูกพืชคลุมดิน ปลูกต้นหญ้า จัดแต่งสวน จัดทำน้ำตกเลียนแบบ เป็นต้น

4. ถมดินรอบๆรอบบ้านให้สูง เพื่อให้พื้นและผนังเล็กน้อยต่ำลงยิ่งกว่าดินทำให้สามารถนำความเย็นจากดินมาใช้ รวมทั้งปลูกไม้พุ่มบริเวณผนังบ้าน



5. ในเรื่องที่มีพื้นที่จำกัด บางทีก็อาจจะปลูกต้นไม้ดัด หรือไม้เลื้อยตามระเบียงหรือรั้ว เพื่อลดลมร้อนพัดผ่านเข้าตัวบ้าน และลดความแรงของแดดที่ ส่องผิวอาคาร



6. ทำรางน้ำรวมทั้งท่อระบายน้ำจากหลังคา หรือส่วนต่างๆภายในบ้านให้ เหมาะสม เพื่อปกป้องความชุ่มชื้นซึมเข้าไปในบ้าน หรือบางทีอาจจะทำท่อเพื่อระบายน้ำที่ได้จาก การซักล้างไปใช้รดน้ำต้นไม้

7. ถ้าอยากได้ทำที่จอดรถ ควรจะทำที่หยุดรถพร้อมหลังคาในด้านทิศตะวันออก หรือทิศตะวันตก เพื่อเป็นการช่วยลดความร้อนผ่านเข้ามาในตัวบ้านโดยตรง



8. บุฉนวนกันความร้อนที่หลังคาและฝาผนัง โดยความดกของฉนวนที่ใช้จำต้อง ขึ้นอยู่กับภาระทำความเย็น แม้กระนั้นส่วนมากใช้ฉนวนที่มีความดกโดยประมาณ 2-3 นิ้ว (50-75 มิลลิเมตร) ฉนวนสำหรับหลังคาและผนังมีหลากหลายประเภท ตัวอย่างเช่น ฉนวนใย แก้ว ฉนวนเยื่อกระดาษ ฉนวนเซรามิกลงสีผนังข้างนอกของบ้านเป็นสีอ่อน ใช้วัสดุที่มีผิวมันและกันความชื้น

9. ใช้กระเบื้องหลังคาสีอ่อน เพื่อสะท้อนความร้อนได้ดี

10. สำหรับผนังด้านที่มีระเบียงยื่น ควรจะเลือกใช้ประตูหรือหน้าต่างประเภทบานพลิกที่สามารถควบคุมจำนวนลมได้ดีกว่าการใช้ประตูหรือหน้าต่างประเภทบานเลื่อน

11.จัดตั้งหน้าต่างกระจกเฉพาะที่จำเป็นจะต้องเพียงแค่นั้น โดยให้เพียงพอสำหรับเพื่อการรับแสงไฟจากธรรมชาติ แล้วก็ควรจะหลีกเลี่ยงการตำหนิดตั้งด้านทิศตะวันออกและตะวันตก

12. ทำกันสาดให้กับหน้าต่างกระจก โดยกันสาดแนวนอนเหมาะสมกับหน้าต่าง ที่อยู่ทางทิศเหนือรวมทั้งทิศใต้ เนื่องจากสามารถบังแดดในช่วงเที่ยงรวมทั้งช่วง บ่าย ส่วนกันสาดแนวดิ่งเหมาะสมกับหน้าต่างที่อยู่ทิศตะวันออกแล้วก็ทิศตะวันตก



13. ติดตั้งผ้าม่านหรือที่บังตาบริเวณหน้าต่างกระจก เพื่อคุ้มครองความร้อนจากแสงสว่าง อาทิตย์เข้าข้างในตัวบ้าน ส่วนการติดฟิล์มกรองแสงสว่างที่กระจกหน้าต่างนั้น แม้จะป้องกัน ความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้ดีกว่า แต่ว่ารายจ่ายสูงกว่าก็เลยไม่ค่อยเป็นที่นิยม

14. สำหรับห้องนอนหรือห้องที่ปรารถนาปรับอากาศที่ตั้งอยู่บริเวณชั้นสองเหนือ บริเวณที่จอดรถหรือระเบียง ต้องมีการทาหรือพ่นฉนวนที่ฝ้าเพดานของที่จอดรถ หรือระเบียงนั้นๆเพื่อคุ้มครองปกป้องการนำความร้อนจากข้างนอกผ่านใต้พื้นของห้องเข้า สู่ตัวห้อง

15. จัดตั้งพัดลมที่มีไว้ระบายอากาศบนหลังคา เพื่อดูดอากาศร้อนใต้หลังคาออกไป ข้างนอก

16. ทำเฉลียงยื่นพร้อมติดกันสาดในทิศตะวันออกและทิศตะวันตก สำหรับใช้ เป็นที่นั่งทานอาหารว่างหรือใช้ปรุงอาหารนอกบ้านแล้วยังช่วยลดความร้อนเข้ามา ในบ้านอีกด้วย

17. ทิศเหนืออยรั่วด้วยปูนซีเมนต์หรือซิลิโคน (Silicone) ที่ช่องจัดตั้งประทีป ช่องติด ตั้งพัดลมเพดาน ช่องที่จัดเตรียมไว้สำหรับเดินท่อน้ำ เป็นต้น เพื่อคุ้มครองความ ร้อนจากด้านนอกผ่านเข้าช่องเพดาน

18. อุดรอยรั่วสะกดรอยต่อ ระหว่างฝาผนังขอบประตู หน้าต่าง เพื่อปกป้องความ ร้อนและความชื้นจากภายนอกผ่านเข้าไปในบ้าน ในกรณีที่ห้องนั้นเป็นห้อง ปรับอากาศ

19. จัดวางตู้แล้วก็ชั้นที่มีไว้สำหรับวางของให้สมควร ไม่บังลม ไม่ขวางการระบาย อากาศ และไม่บังแสง

20. จัดวางโต๊ะที่มีไว้สำหรับใช้ในการเขียนหนังสือให้หันไปในฝาผนังด้านที่รับแสงสว่างธรรมชาติได้

21. หมั่นรักษาชำระล้าง ประพรม ผ้าม่าน โซฟา ไม่ให้เปียกแฉะ เพื่อลดภาระหน้าที่สร้างความเย็นเนื่องด้วยความร้อนซ่อนเร้น



22. แบ่งแยกห้องใช้สอยโดยคิดถึงการประหยัดพลังงาน โดยจัดห้องที่ใช้ ช่วงเช้าอยู่ในทิศตะวันออก ส่วนห้องที่ใช้สอยแทบตลอดทั้งวันให้อยู่ทิศเหนือ เนื่องจากจะเย็นสบายที่สุด อย่างเช่น ห้องนั่งเล่นอยู่ในทิศเหนือ เป็นต้น

23. ควรจะติดตั้งคอนเดนเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศในที่ร่ม หรือใต้ต้นไม้ รวมทั้งจำต้องไม่มีเครื่องกีดขวางทางลมเข้าแล้วก็ออกมาจากคอนเดนเซอร์ ในด้านด้าน เหนือของบ้านเป็นด้านที่เหมาะสมที่จะติดตั้งคอนเดนเซอร์สูงที่สุด แต่ว่าถ้าไม่ สามารถติดตั้งในด้านทิศเหนือก็สามารถติดทางด้านทิศใต้ที่มีกันสาดแทนได้

24. ควรจะจัดตั้งคอนเดนเซอร์ในที่ๆสามารถดูแลทำนุบำรุงสะดวก และใน ที่ๆไม่ส่งเสียงก่อกวนเข้ามาข้างในห้อง



25. ควรจัดตั้งอุปกรณ์สำหรับใช้ในการควบคุมอุณหภูมิ (Thermostat) ด้านในห้องปรับอากาศ ให้เหมาะสมหมายถึงไม่สมควรได้รับแสงอาทิตย์โดยตรง เพราะว่าจะมีผลให้เทอร์โมสตัท อ่านค่าบกพร่อง และก็ควรจัดตั้งในบริเวณที่สามารถที่จะอ่านค่าอุณหภูมิได้ง่ายและก็ และสบายต่อการปรับตั้งค่าอุณหภูมิตามต้องการ

26. ควรติดตั้งเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ในรอบๆที่ไม่ปรับอากาศและก็เปิดโล่ง ดังเช่นว่า ที่จอดรถ ระเบียงนอกบ้าน เพื่อระบายความร้อนและลดความชื้นที่ปลด ปลดปล่อยมาจากอุปกรณ์ไฟฟ้าพวกนี้ แต่ถ้าจำเป็นต้องจัดตั้งในห้องปิด ควรจะจำเป็นต้องติด ตั้งพัดลมที่มีไว้ระบายอากาศ เพื่อคุ้มครองการสั่งสมความร้อนและก็ความชื้นภายในห้อง



27. พินิจทำห้องครัวให้อยู่นอกตัวบ้าน แต่ถ้าหลบหลีกมิได้ครัวที่อยู่ ข้างในตัวบ้านควรมีการระบายความร้อนที่ดี เพราะเหตุว่าครัวมักมี อุปกรณ์ไฟฟ้าหลายประเภท อาทิเช่น เตาอบ เตาหุงหาอาหาร กาที่มีไว้ต้มน้ำร้อน ตู้เย็น ซึ่งเป็น แหล่งปลดปล่อยความร้อนที่สำคัญ



28. จัดตั้งเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันใบริเวณที่ทำการหุงหาอาหารและก็อากาศ ที่ใช้กับเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันนี้ ควรมาจากภายนอกบ้านไม่สมควรใช้อากาศ เย็นจากเครื่องปรับอากาศโดยตรง

29.เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง นอกเหนือจากที่จะอดออม พลังงานจากตัวมันเองแล้วยังลดความร้อนที่ถูกปลดปล่อยออกมาในเวลาใช้งาน อีกด้วย ดังเช่น ใช้ตู้เย็นสมรรถนะสูง ใช้หลอดไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง เป็นต้น

Beer625




Chanapot



Chigaru




Naprapats


luktan1479


dsmol19



Shopd2