24 ชั่วโมง ของพนักงานออฟฟิศอย่างพวกเราๆตับปฏิบัติภารกิจอะไรบ้าง ?

[Beer625]

ชีวิตบุคลากรสำนักงาน ส่งผลต่อตับ เป็นปัญหาที่ดูเหมือนจะตอบยากเพราะว่าแม้ ตับมีปัญหา ตับก็จะไม่แสดงออกทันที ซึ่งต่างกับอวัยวะอื่นๆที่เจ็บเมื่อไรก็ส่งสัญญาณเตือนทันที แต่ว่าสำหรับตับแล้วแม้ได้รับการทำร้ายตับก็จะสามารถซ่อมแซมตัวเองแต่ก็อาจจะไม่โชคดีเสมอพร้อมหากตับได้รับการทำลายอย่างมากและก็ตลอดก็ส่งผลให้โรคตับแข็งหรือเป็น มะเร็งตับ ได้



แล้วใน ชีวิตบุคลากรสถานที่ทำงาน 24 ชั่วโมงอย่างเราๆนั้นสร้างภาระให้ตับได้มากขนาดไหนมาดูกัน

อาหารเช้า ส่งผลต่อตับ 

มื้อรุ่งเช้าที่รีบเร่งของหนุ่มสาวสำนักงานโดยมากกับการดื่มกาแฟเพียง 1 แก้วหรือกระทั่งมิได้รับประทานอะไรเลยทำให้ร่างกายมิได้รับสารอาหารที่จำเป็น ซึ่งถ้าเกิดนับเวลาย้อนไปมื้อล่าสุดที่ร่างกายได้รับไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมง แปลว่าตับผู้ที่เป็นหน้าที่ส่งพลังงานรวมทั้งสารอาหารไปยังส่วนต่างๆในร่างกายนั้นจำเป็นต้องดึงไกลวัวเจนที่เก็บสะสมไว้มากลายเป็นพลังงานในตอนเวลาเช้าและร่างกายยังจำเป็นต้องตอบแทนคาร์โบไฮเดรตที่ใช้เพื่อสำหรับในการกลายเป็นพลังอย่างเร็วก็เลยต้องรับประทานในมื้อถัดไปเยอะขึ้นอีกด้วยซ้ำซึ่งแปลงเป็นการเพิ่มภาระหน้าที่ให้ตับสำหรับเพื่อการทำงานมากขึ้น

มลพิษ พิษ มีผลต่อตับ

ตอนเช้ายังต้องเผชิญมลพิษบนถนนในทุกๆวันด้วยชีวิตที่รีบร้อนของคนกรุงในขณะนี้ที่จำต้องพบกับมลพิษต่างๆไม่ว่าจะเป็น ควันพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ สารพิษเหล่านี้ เมื่อได้รับการสะสมเป็นเวลานานอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ผลจากการศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยจากองค์กรอนามัยโลกกล่าวว่า 80% ของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆของผู้คนนั้น ล้วนแต่มีต้นสายปลายเหตุฐานรากเกี่ยวโยงจากการสัมผัสกับมลภาวะที่สะสมเป็นระยะเวลานานทั้งหมดมีผลต่อในร่างกายโดยยิ่งไปกว่านั้นตับที่เป็นศูนย์กลางแล้วก็กรองสารพิษของร่างกาย

Fast Food ส่งผลต่อตับ

พอมื้อเที่ยงต่างคนต่างรีบเนื่องจากว่าส่วนมากพนักงานสำนักงานต้องรีบหามื้อกลางวันในเวลาเดียวกันซึ่งมื้ออาหารที่เหมาะกับในช่วงเวลานั้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารจานด่วนหรืออาหารจานด่วนพร้อมกินได้โดยทันทีแต่บางทีอาจมีผลร้ายในระยะยาวได้ โดยยิ่งไปกว่านั้นตับ เนื่องจากว่าจำนวนมากอาหารจานด่วนนั้น มักจะมีแป้ง น้ำตาล ไขมัน รวมทั้งโซเดียมสูงเกินความปรารถนาของร่างกาย ทำให้เกิดการสั่งสมไขมันส่วนเกินในตับได้ซึ่งหากมีไขมันพอกมากๆ หรือแทรกในเนื้อตับมากเข้า ส่งผลเสี่ยงต่อโรคไขมันพอกตับ นำมาซึ่งภาวการณ์ตับอักเสบ โรคตับแข็งแล้วก็ มะเร็งตับ สุดท้าย

ความเครียด ส่งผลต่อตับ

ตกบ่ายมีเรื่องสะสมให้เกิดความเครียดทั้งยังเรื่องเนื้องานที่ได้รับมอบหมายหรืองานด่วน งานแทรกทำให้ ขั้นตอนการทำร้ายตับจากความตึงเครียดที่สะสม ทำให้ต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนรวมทั้งฮอร์โมนในกลุ่มความเคร่งเครียด อาทิเช่น คอร์ติซอล ซึ่งส่งผลต่อการกระตุ้นเยื่อของเซลล์ต่างๆในร่างกายจนกระทั่งทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่ตับและก็ทำให้ความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการดำเนินการของภูมิต้านทานลดต่ำลงส่งผลให้เกิดความเสื่อมโทรมต่อตับได้ เปิดโอกาสให้เชื้อโรคเข้ามาประทุษร้ายได้มากขึ้น นี่เป็นมูลเหตุว่าทำไมเราถึงล้มป่วยจากความเคร่งเครียดได้

แอลกอฮอล์ ยาสูบ มีผลต่อตับ

และก็ก่อนกลับไปอยู่ที่บ้านก็มีการคบหาสมาคม ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ คุยกับสหายที่ทำงานทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตั  แต่ว่าหารู้ไม่ว่าเป็นการทำลายตับโดยตรง เพราะว่าเซลล์ตับถูกทำลายจากการดื่มแอลกอฮอล์รวมทั้งการสูบบุหรี่ ทั้งยังพิษอะซีทัลดีไฮด์ จากแอลกอฮอล์ ทำให้โรคตับอักเสบจากแอลกอฮอล์และการดมควันจากบุหรี่ซึ่งมีสารอนุมูลอิสระปนเปรวมทั้ง สารนิโคติน ที่เข้าไปกระตุ้นต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนส่งผลให้เซลล์ตับเกิดการความย่ำแย่ และแอลกอฮอล์ ยังให้แคลอรี่ มากถึง 7 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม เทียบกับ คาร์โบไฮเดรตหรือโปรตีน ที่ให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม จึงไม่แปลกที่ สายดริ๊งก์ถึงเสี่ยงมีภาวะอ้วนลงพุง!!!

นอนน้อย ส่งผลต่อตับ

และสุดท้ายกว่าจะได้นอนก็ยังนอนดึก พักผ่อนน้อย ส่วนใหญ่แล้วหนุ่มสาวออฟฟิตทั้งหลายแหล่ก็ยังไม่ได้นอนทำให้กระบวนการทำงานกำจัดพิษในตับดำเนินงานได้ไม่เต็มกำลังมีผลต่อการเกิดโรคร้ายที่ตามมาอีกทั้งตับอักเสบได้อย่างง่ายดาย ซึ่งตามทฤษฎีแล้วขณะ ห้าทุ่มถึงหนึ่งนาฬิกา เป็นเวลาที่จะเกิดขั้นตอนการกำจัดสารพิษในตับ ซึ่งน่าจะจะต้องอยู่ในช่วงการนอนสนิท

จากความประพฤติเพียง หนึ่งวันพวกเราก็สร้างภาระหน้าที่ให้ตับเรียกว่าทุกขณะเลยก็ว่าได้ ไหนจะเป็นภาระหน้าที่ที่เราหลีกเลี่ยงมิได้หรือบากบั่นควบคุมและก็ทำเป็นยาก โดยเหตุนั้นเราก็เลยจำเป็นที่จำเป็นต้องหันมาดูแลรักษาสุขภาพร่างกายตับพวกเราให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ก่อนจะไม่เหลือตับให้ดูแล